; วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Qdenga) -โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ McCormick Hospital ChiangMai

วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Qdenga)



        โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1 DENV-2 DENV-3 และ DENV-4 โดยสามารถแพร่ระบาดได้โดยมียุงลายบ้านเป็นพาหะนำโรค อาการแสดงของโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ เป็นต้น ทำให้ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าตนเป็นเพียงไข้หวัด ส่งผลให้ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมจนอาจทำให้โรครุนแรงขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

        เนื่องจากโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่ระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 65 ปี โดยมักระบาดหนักในสังคมเมือง เมืองใหญ่ ๆ เนื่องจากมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น แม้ไข้เลือดออกจะไม่ติดต่อทางการสัมผัสโดยตรงแบบโรคโควิด-19 ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการใส่หน้ากากอนามัยและการฉีดวัคซีน แต่โรคไข้เลือดออกไม่สามารถป้องกันโรคโดยการใส่หน้ากากอนามัยได้ เพราะโรคนั้นติดต่อผ่านยุงลายที่เป็นพาหะที่มีเชื้อไข้เลือดออก หากยุงลายกัดคนที่มีเชื้อไข้เลือดออกแม้ไม่แสดงอาการ และมากัดเราต่อก็สามารถส่งต่อเชื้อได้ การป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดตลอดเวลานั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก การป้องกันไข้เลือดออกโดยการฉีดวัคซีนจึงเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

        โรคไข้เลือดออกสามารถติดได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอายุ พบว่าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้เลือดออกรุนแรงได้เหมือนกัน ทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีการระบาด คือ ประเทศไทย จึงควรได้รับวัคซีนในการป้องกันตนเองจากโรคนี้

        หากว่าเราเคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้ว ยังจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เนื่องจากโรคไข้เลือดออกสามารถติดซ้ำได้หลายครั้ง เพราะไวรัสเดงกีที่ก่อให้เกิดโรคไข้เลือดออกมีถึง 4 สายพันธุ์ การติดสายพันธุ์หนึ่ง ๆ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้เฉพาะสายพันธุ์นั้น ๆ และจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์อื่น ๆ ได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น  อีกทั้งยังพบว่าการติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรครุนแรงได้  การฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจึงเป็นการลดโอกาสในการติดเชื้อ ลดโอกาสในการนอนโรงพยาบาล และลดโอกาสการเป็นโรครุนแรง

        ดังที่กล่าวแล้วในเบื้องต้น โรคไข้เลือดออกสามารถติดได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอายุ จะเห็นว่า ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้เลือดออกรุนแรงได้เหมือนกัน แต่หากพูดถึงกลุ่มเปราะบางที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นไข้เลือดออกรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นนั้นใกล้เคียงกับกลุ่มเปราะบางของโรคโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่

        - กลุ่มคนอ้วน
        - กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคธาลัสซีเมีย โรคเลือด โรคไต เป็นต้น
        - กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มนี้อาจจะมีภูมิต้านทานต่ำและมีโรคประจำตัวร่วมหลายโรค

        ไข้เลือดออก ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
        มาปกป้องครอบครัว ด้วยวัคซีนไข้เลือดออกกันเถอะ



วัคซีนไข้เลือดออก ชนิดใหม่ live-attenuated recombinant dengue2-dengue (Qdenga) ผลิตจากประเทศเยอรมนี สามารถป้องกันต่อเชื้อไวรัสไข้เลือดออก ได้ถึง 4 สายพันธุ์

        - สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 80.2%
        - ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล 90.4%
        - ฉีดได้ในผู้ที่มีอายุ 4 - 60 ปี ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง 2 เข็ม เว้นห่างกัน 3 เดือน

** สามารถฉีดได้ทั้งในผู้ที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อนการฉีดวัคซีน

*** สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคไข้เลือดออก สามารถฉีดได้ โดยเว้นระยะห่าง 6 เดือน หลังจากหายโรค

        วัคซีนมีความปลอดภัย ผลข้างเคียงที่พบ เป็นเพียงผลข้างเคียงทั่วไป ได้แก่ อาการปวดตรงตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ โดยส่วนมากมักหายได้เอง ภายในเวลา 1 - 3 วัน